Apple เปิดตัว iPhone 17 อย่างเป็นทางการ พร้อมคุณสมบัติสุดล้ำที่สร้างมาเพื่อ Apple Intelligence ทำให้ชีวิตประจำวันง่ายยิ่งขึ้น โดยตัว iPhone 17 รุ่นมาตรฐานนี้มาพร้อมการอัปเกรดหลายด้านเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยเฉพาะกล้อง ความจุเริ่มต้นที่เพิ่มขึ้น และการชาร์จเร็วที่เหนือชั้นยิ่งกว่า สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ในวันที่ 12 กันยายน และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 19 กันยายนนี้
ดูสรุปสเปค iPhone Air และ iPhone 17 Pro/ iPhone 17 Pro Max ที่นี่
สเปค iPhone 17
การออกแบบและจอภาพ
iPhone 17 มาพร้อมดีไซน์ที่โค้งมนและขอบจอที่บางลง ทำให้ดูสวยงามและจับถนัดมือ โดยรวมยังคงคล้ายรุ่นก่อนหน้า ตัวเครื่องด้านหน้าทำจากวัสดุ Ceramic Shield 2 ซึ่งเป็นเวอร์ชันอัปเกรดที่ทนการขีดข่วนได้ดีขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า มีให้เลือก 5 สีได้แก่ ลาเวนเดอร์, เขียวเสจ, ฟ้าหมอก, ขาว และดำ ความจุเริ่มต้นที่ 256GB ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้า 2 เท่า

ส่วนหน้าจอเป็นแบบ Super Retina XDR ขนาด 6.3 นิ้ว ใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า ทำให้ดูเนื้อหาและทำกิจกรรมต่างๆ ได้เต็มที่ยิ่งขึ้น พร้อมรองรับ ProMotion ที่ปรับอัตรารีเฟรชได้สูงสุด 120Hz เล่นได้ไหลลื่น เหมาะสำหรับเกมระดับสูง และยังทำความสว่างได้สูงสุดถึง 3,000nits กับจอที่ลดแสงสะท้อนมากขึ้นด้วย
ประสิทธิภาพ ชิป และแบตเตอรี่
หัวใจหลักของ iPhone 17 คือชิป A19 ที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงาน รองรับ Apple Intelligence และการเล่นเกมระดับ AAA ได้แล้ว โดยชิปนี้มาพร้อม GPU แบบ 5-core และตัวเร่งความเร็วนิวรอล ทำให้การประมวลผลรวดเร็ว ลื่นไหล และเหมาะสำหรับงานหนักอย่างการตัดต่อวิดีโอหรือเล่นเกมกราฟิกสูงได้สบายๆ

ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ตลอดวัน โดยเล่นวิดีโอนานสูงสุด 30 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็วสุดๆ เพียงชาร์จ 10 นาทีด้วยอะแดปเตอร์ที่รองรับ ก็เล่นวิดีโอได้นานกว่า 8 ชั่วโมง หรือชาร์จถึง 50% ใน 20 นาทีด้วยอะแดปเตอร์ 40W ขึ้นไปก็ได้
นอกจากนี้ iPhone 17 ยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 ที่รวดเร็วและปลอดภัย Bluetooth 6, 5G และ eSIM โดยมีอุปกรณ์เสริมอย่างเคสซิลิโคนพร้อม MagSafe ในสีสันใหม่ เคสใสเพื่อโชว์สีเครื่อง และสายสะพายข้างสำหรับสะพาย iPhone ไปทุกที่โดยไม่ต้องถือ
ระบบกล้องใหม่
iPhone 17 ยกระดับระบบกล้องให้ดีขึ้นกว่าเดิม เน้นความละเอียดสูงและความฉลาดที่มากขึ้นในการถ่ายภาพ โดยมีกล้องหน้ามีความละเอียด 18MP พร้อมเทคโนโลยี Center Stage ที่ปรับเฟรมให้อยู่ตรงกลางอัตโนมัติ เพื่อให้การถ่ายเซลฟี่กลุ่มหรือวิดีโอคอลชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงกล้องหน้าสามารถปรับได้ 4 รูปแบบทั้งแนวตั้งและแนวนอน เลือกถ่ายได้เลยง่ายๆ

สำหรับกล้องหลัง เป็นระบบกล้อง Fusion คู่ 48MP ได้แก่:
- กล้องหลัก: Fusion 48MP พร้อมเทเลโฟโต้ 2 เท่าคุณภาพระดับออปติคัล
- กล้องอัลตร้าไวด์: Fusion 48MP ที่ให้ความละเอียดมากกว่า iPhone 16 ถึง 4 เท่า โดยภาพอัลตร้าไวด์เริ่มต้นที่ขนาด 24MP ซึ่งเหมาะสำหรับการเก็บและแชร์ภาพคุณภาพสูง
กล้องทั้งหมดรองรับการถ่ายภาพความละเอียดสูงพิเศษในทุกสภาวะแสง ไม่ว่าจะใกล้ไกล ในร่มหรือกลางแจ้ง แสงจ้าหรือแสงน้อย นอกจากนี้ ยังรองรับการบันทึกวิดีโอแบบถ่ายด้วยกล้องคู่ (หน้า-หลังพร้อมกัน) และมีฟีเจอร์อย่างรูปแบบภาพถ่ายเจเนอเรชั่นล่าสุด มาโคร วิดีโอระดับโปรสูงสุด 4K ที่ 60 fps และฟีเจอร์ AI ลบวัตถุออกได้ด้วย

สรุปสเปค iPhone 17
- ขนาดและน้ำหนัก: 149.6 × 71.5 × 7.95 มม. | 177 กรัม
- หน้าจอ: Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด 6.3 ความละเอียด 2622 x 1206/ ProMotion 120Hz/ 3,000nits
- ชิปประมวลผล: A19
- GPU: แบบ 5-core พร้อมตัวเร่งความเร็วนิวรอล
- RAM: รอเปิดเผยคาดว่า 8GB/ ROM: 256GB/ 512GB
- กล้องหลัง 2 ตัว Fusion ความละเอียด
- เลนส์หลัก 48MP (ƒ/1.6)/ เทเลโฟโต้ 2 เท่า/ กันสั่นแบบออปติคัล
- เลนส์อัลตร้าไวด์ 48MP (ƒ/2.2)/ 120°
- วิดีโอ 4K ที่ 60 fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 18MP (ƒ/1.9)/ Center Stage
- การเชื่อมต่อ: 5G, WI-FI 7, Bluetooth 6, NFC, USB-C
- eSIM
- กันน้ำกันฝุ่น: IP68
- ระบบปฏิบัติการ: iOS26
- แบตเตอรี่ความจุ: เล่นวิดีโอสูงสุด 30 ชั่วโมง
ราคาและการวางจำหน่าย
iPhone 17 สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้วันที่ 12 ก.ย. เวลา 19:00 น. และเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 2025 เป็นต้นไป
- ความจุ 256GB: ราคา 29,900 บาท
- ความจุ 512GB: ราคา 37,900 บาท
ที่มา: Apple